วิเอียร่าต้อนเทต เคทเลน วิเอียร่า นักสู้สาวชาวบราซิล อาศัยการออกอาวุธยาวแลดความเที่ยงตรง
วิเอียร่าต้อนเทต “ฟีโนมีโน” วัย 30 ปีเข้าของสถิติชนะ 11 แพ้ 2 ดวลกับ “คัพเค้ก” วัย 35 ปี ที่มีสถิติชนะ 19 แพ้ 7 เริ่มยกแรกทั้งสองยังคงระแวดระวังโดย เทต มานะเข้าเทคดาวน์ใส่ วิเอียร่า แต่ว่ายังไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ถนัด
ยก 2-3 รูปเกมการต่อสู้ยังคงใกล้เคียง โดยอาศัยการสู่วงนอก ซึ่งวิเอียร่า ใช้ความสูงยาวสกัดจังหวะเทคดาวน์ของ เทต ได้ดี ในระหว่างที่ เทต ก็มานะดึงมาต่อสู้ในเกมของตน แต่ว่าก็ไม่เป็นผลสำเร็จ
ยกที่ 4 เทต มานะรุกหนักแต่ว่าด้วยตอนต่อยแล้วก็ความแข็งแกร่ง ทำให้เข้าไม่ติด แถมยังจำต้องแลกเปลี่ยนด้วยการโดนหมัดของวิเอียร่า กระทั่งเริ่มมีแผลแตก ไปสู่ยกในที่สุด เทต เริ่มเบา ๆ ลงไป แถมสยังถูกวิเอียร่า ยิงหมัดใส่จนถึงเลือดเต็มหน้า คัมแบ็กคิกบ็อกซิ่ง
ครบ 5 ยกผู้ตัดสินรวมคะแนน รวมทั้งยกมือให้ เคทเลน วิเอียร่า เอาชนะคะแนน มิชา เทต ไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์ พร้อมเพิ่มสถิติเป็นชนะ 12 แพ้ 2 รองคู่เอกในรุ่นเวลเตอร์เวต ระหว่าง ไมเคิล เคียซ่า จอมซับมิทชันคนประเทศอเมริกาวัย 33 ปี เจอกับ ฌอน เบรดี้ นักสู้ไม่มีปราชัยเพื่อนร่วมชาติวัย 28 ปีที่มีสถิติชนะ 14 ไฟต์รวด
โดยผลของการต่อสู้ปรากฏว่า เบรดี้ ออกอาวุธได้อย่างดุเดือดรวมทั้งกระจ่างกว่า เอาชนะคะแนนไปได้อย่างเอกฉันท์ เพิ่มสถิติไม่มีแพ้เป็น 15 ไฟต์ นอกเหนือจากไฮไลต์ที่คนไทยรอก็คือการขึ้นชกในพิกัดรุ่นสตรอว์เวตหญิงของ โลมา ลูกบุญมี นักสู้สาวจางจังหวัดบุรีรัมย์ เดียวจากเมืองไทยในศึกยูเอฟซี ที่เจอกับ ลูปิต้า โกดิเนซ คู่ปรับมวยแทนชาวชาวเม็กซิโก
โดยตลอด 3 เป็น ลูปิต้า ที่ออกอาวุธได้แจ่มแจ้งมากยิ่งกว่าเอาชนะคะแนนนักสู้สาวไทยไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์
วิเอียร่าต้อนเทต “โลมา ลูกบุญมี” ขึ้นชกเจอ “เชย์แอนน์” ศึกยูเอฟซี 21 พฤศจิกายนนี้
โลมา ลูกบุญมี นักสู้สาวอันเดียวจากเมืองไทยในศึกยูเอฟซี ได้เวลาคัมแบ็คกลับสู่สังเวียนการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอีกที ภายใต้ศึกยูเอฟซีไฟท์ไนท์:วิเอียร่าปะทะเทต โดยจะเจอกับ เชย์แอนน์ เบส์ คู่ประมือคนอเมริกัน ในพิกัดรุ่นสตอร์วเวต ในวันที่ 21 พ.ย. นี้ในสังเวียนเอเปคอารีน่า ลาส เวกัส อเมริกา
สุภิสรา คนหลัก นักสู้สาวไทยวัย 25 ปีจากจังหวัดบุรีรัมย์ สถิติชนะ 6 แพ้ 2 ผู้ผ่านการขึ้นสังเวียนในสนามมวยไทยมาแล้วมากมายว่า 200 ไฟต์ เริ่มก้าวเข้าสู่สังเวียน 8 เหลี่ยมคราวแรก เมื่อปี 2019 แล้วก็เก็บชัยได้ตั้งแต่ไฟต์แรก มวยไทย
ต่อด้วยการแพ้คะแนน อันเจลา ฮิลล์ คู่ประมือคนประเทศอเมริกาเมื่อก.พ.ปี 2020 แล้วก็เอาชนะคะแนน จิน ญู เฟรย์ นักสู้สาวลูกครึ่งประเทศเกาหลีใต้-อเมริกัน ซึ่งไฟต์ปัจจุบัน เมื่อพ.ค. ก่อนหน้าที่ผ่านมา “เดอะไทย ดอลฟิลส์” ไล่อัดเอาชนะ แซม ฮิวจ์ส คู่แข่งขันคนอเมริกัน ไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์ในศึกยูเอฟซีไฟท์ไนท์:เรเยสปะทะโปรชาซก้า
สำหรับคู่ต่อกรของ โลมาเป็นเชย์แอนน์ เบส์ นักสู้สาววัย 23 ปีคนอเมริกัน ผู้ครอบครองสถิติชนะ 6 แพ้ 2 และไม่เคยแพ้น็อกให้คนใด ซึ่งผลงานไฟต์ปัจจุบันชนะ ทีเคโอ กลอเรีย เดอ เปาล่า เมื่อกรกฎาคมก่อนหน้านี้ ก่อนจะได้เจอกับนักสู้สาวไทย ในวันที่ 21 พ.ย.นี้
“โลมา” ไล่อัด “ฮิวจ์ส” คว้าชัยศึกยูเอฟซี ที่สหรัฐอเมริกา
โลมา ลูกบุญมี หรือชื่อเต็ม สุภิสรา คนหลัก นักสู้สาวคนไทยเดียวในศึกยูเอฟซี หน่วยงานศิลปะการต่อสู้แบบผสมอันดับต้น ๆ ของโลก ไม่ทำให้แฟนคนประเทศไทยผิดหวัง
ข้างหลังเป็นข้างเอาชนะในรายการยูเอฟซี ที่ลาส เวกัส, สหรัฐอเมริกา เมื่อเวลาเช้าวันอาทิตย์ที่ 2 เดือนพฤษภาคม ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา โดย สมัยก่อนแชมป์โลกมวยไทยหญิง เปิดศึกรุ่นสตรอว์เวท หญิง เจอกับ แซม ฮิวจ์ส นักสู้สาวเจ้าถิ่นวัย 28 ปี ที่ผ่านสังเวียนเอ็มเอ็มเอมาแล้วถึง 7 ไฟต์ร่วมกัน
เปิดตัวมายกแรก โลมา ลูกบุญมี ยังมองจังหวะดักถีบสาดลำแข้งไม่ให้คู่แข่งเดินใกล้ชิดได้ ด้าน แซม ฮิวจ์ส อุตสาหะเข้าเทคดาวน์แต่ว่าก็โดนหัวเข่าสวนจนถึงตกลงไปสู้กันบนพื้น ซึ่ง นักสู้สาวคนไทยก็ปกป้องตัวเองได้ดิบได้ดีก่อนยืนขึ้นมาสู้ในท่ายืนที่ตนเองถนัด
ยกสอง นักสู้เจ้าถิ่นมาเดินบวกโดยทันทีอุตสาหะจับเทคดาวน์เชิญชวนเล่นเกมนอน แต่ว่า นักสู้คนไทยไม่ยินยอมกล้วย ๆ ปกป้องก้าวหน้าแถมมีหมัดแล้วก็ศอกสวนเป็นระยะ ปลายยก แซม ฮิวจ์ส ที่โดนเตะลำตัวไปหลายทีเริ่มอ่อนลงอย่างชัดเจนกระทั่งโดน โลมา ลูกบุญมี จับเทคดาวน์ได้เสร็จ
ยกสาม นักสู้สาวคนไทย มาย้ำรัดกุมคุมจังหวะ อาศัยแม่ไม้มวยไทยสาดหน้าแข้งโจมตีคู่ปรับจากวงนอก ด้าน นักสู้สาวชาวมะกันก็พยามเดินติดจับล็อกแต่ว่าก็โดนแทงหัวเข่าทำร้ายสม่ำเสมอ
กระทั่งท้ายที่สุดก็ไม่สามารถที่จะจับนักสู้คนประเทศไทยลงไปปิดเกมด้วยท่านอนได้เสร็จ ครบ 3 ยก ผู้ตัดสินรวมคะแนนก่อนยกมือให้ โลมา ลูกบุญมี นักสู้สาวคนประเทศไทยวัย 25 ปี เป็นข้างเอาชนะคะแนนไปได้แบบเอกฉันท์ 29-28, 29-28 แล้วก็ 29-28 คว้าชัยเป็นครั้งลำดับที่สามบนสังเวียนยูเอฟซี
โดยมีสถิติชนะ 3 แพ้ 1 ครั้ง นับจากเซ็นสัญญาเข้าขึ้นอยู่กับเมื่อปีให้หลัง (สถิติทั้งปวงในเอ็มเอ็มเอชนะ 6 แพ้ 2)