เหตุเพราะความโลภ การเคลื่อนที่ข้อความสำคัญใหญ่ในแวดวงมวยไทยบ้านพวกเรา
เหตุเพราะความโลภ ในการที่ฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์ ออกมารับสารภาพว่ามีการล้มมวยจริงสำหรับการต่อยไฟต์ปัจจุบันที่เจอกับ หลานย่าโม ว.วัฒนะ ในรายการ “ศึกมวยมันส์วันศุกร์” ที่สนามกีฬากึ่งกลาง จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันศุกร์ที่ 8 เดือนตุลาคม ก่อนหน้านี้
ปัจจุบัน อำนาจ ครึกครื้น อดีตกาลหมัดตามที่ทำหน้าเป็นคุณครูฝึกซ้อมมวย และก็คนดูแลในไฟต์ดังที่กล่าวผ่านมาแล้วได้นำตัว นักต่อยวัย 19 ปี ไปพบกับ นายพลัฎฐ์ สุวรรณาปัญญามือ ผู้อำนวยการที่ทำการคณะกรรมการกีฬาชกมวย ทำนานอนาคต
เพื่อคำให้การในกรณีที่เจ้าตัวล้มมวย และร้องให้มีการเอาผิดกับผู้จ้างวานล้มมวยในคราวนี้ ซึ่งฟ้าวันใหม่ ได้ให้คำให้การว่า ผู้จ้างวานให้ล้มมวยนั้นได้ติดต่อมาทีแรกในทำนองมาขอซื้อน้ำพริกที่ตนขายในตอนที่มิได้ขึ้นชกเพราะว่าปัญหาเกี่ยวกับการแพร่ระบาดโควิด
คราวแรกซื้อ 5 กิโลกรัม ราว 2,400 บาท แต่ว่าโอนมาให้ 5,000 บาท โดยพูดว่ารู้สึกชื่นชอบความสามารถการชกมวย รวมทั้งถามเรื่องมวย ฝึกอย่างไร เป็นอยู่อย่างไร แล้วคราวสองได้มีการสั่งซื้ออีกรอบ แต่ว่าคราวนี้กล่าวว่าจะมารับด้วยตนเองที่บ้าน
โดยให้ขึ้นไปรับเงินบนรถยนต์ ก่อนจะยื่นข้อเสนอว่าสำหรับการต่อยกับ หลานย่าโม ว.วัฒนะ นั้นตนสู้ไม่ได้หรอก ให้ล้มมวยตามคำสั่งจะว่าจ้างในจำนวนเงิน 5 แสนบาท แม้กระนั้นไม่เอาช่างเถิด แต่ว่าห้ามบอกผู้ใดกันแน่ หากบอกคนไหนกันจะมากมายระทืบ เนื่องจากว่าทราบว่าบ้านอยู่นี้
เหตุเพราะความโลภ โดยฟ้าวันใหม่ ได้ตอบรับที่จะล้มมวยให้ โดยในวันต่อยได้มีการโอนเงินมาให้ 3 หมื่นบาท
พอเพียงขึ้นสังเวียนก็กระทำตามที่เขาบอกเป็นสำหรับในการต่อยชู 1 ถึง ยก 3 ให้โชว์ความสามารถสุดกำลัง แม้กระนั้นยก 4 ให้แกล้งโดนอาวุธอะไรก็ได้ แล้วทิ้งตัวยอมแพ้น็อกไป
ซึ่งฟ้าวันใหม่ก็ฝ่าเข้าไปให้ หลานย่าโม สับศอกแพ้น็อกไปท้ายที่สุด ซึ่งหัวข้อนี้ “เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์ใหญ่ศึกเพชรยินดี เป็นผู้จับได้ข้างหลังรูปเกมผิดสังเกต ก็เลยได้จัดแจงโพสต์ประจานในโลกอินเตอร์เน็ต
ก่อนที่จะในเวลาถัดมา ฟ้าวันใหม่จะออกมารับสารภาพ และก็ขออภัยกับความประพฤติที่เกิดขึ้นทั้งผอง สำหรับก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ฟ้าวันใหม่เป็นอดีตนักมวยฝีมือยอดเยี่ยมคนหนึ่ง โดยใช้ชื่อต่อยว่า “ต่อทอง ของเทศบาลเขาบางแกรก” แล้วก็เคยปะทะมวยดีๆ มาแล้วผู้คนจำนวนมาก เ
มื่อก่อนหน้านั้นได้เกิดหลงทางไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติด รวมทั้งมีปัญหาเคยล้มมวย ทำให้หมดอนาคตในแวดวงมวยมากาลครั้งหนึ่ง อย่างไรก็แล้วแต่ เจ้าตัวดันไปก่อให้เกิดปัญหาแทงมวยในรายการของศึกเพชรยินดี ที่เวทีรังสิต
กลับชักดาบเงินพนัน ทำให้ถูกบรรดาเซียนมวยจับกุมตัวไว้ได้ ก่อนที่จะโปรโมเตอร์ใหญ่จะเข้าช่วยเหลือด้วยการมอบโอกาสกลับมาชกมวยปลดหนี้สินแม้กระนั้นก็ดันมาก่อเหตุล้มมวยอีกทีซ้ำสอง
ฝ่าไม่ยั้ง! “เสี่ยโบ๊ท” ลั่นกลาง “โหนกระแส” เอาผิดถึงที่สุดคดีล้มมวย “ฟ้าวันใหม่”
ภายหลังที่ฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์ สารภาพว่าล้มมวยในศึกมวยไทยรายการ “ทรูโฟร์ยู มวยสนุกวันศุกร์” ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ในไฟต์ที่แพ้น็อกในยกที่ 4 ให้กับ หลานย่าโม ว.วัฒนะ ซึ่งจากนั้นฟ้าวันใหม่ ที่มี “โบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ เป็นผู้จัด แล้วก็มีการเข้าแจ้งเหตุตระเตรียมฟ้องกับผู้จ้างวาน ที่ สภ.เขาบางแกรก จังหวัดจังหวัดอุทัยธานี
แล้วก็เข้าอธิบายในกรณีที่เกิดขึ้นที่ที่ทำการมวย การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อตอนบ่ายก่อนหน้าที่ผ่านมา (13 ตุลาคม) รายการโหนกระแสที่มี “หนุ่ม” กรรชัย กำเนิดพลอย ผู้ดำเนินรายการ ได้เชื้อเชิญ “โบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ ผู้จัดการแข่งมวยรายการนี้
รวมทั้ง “ฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์” มาพูดเรื่องจริงทั้งหมดทั้งปวงที่เกิดขึ้น หัวข้อสำคัญมีดังนี้ “โบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ เล่าที่ไปที่มาว่า ได้พบกับฟ้าวันใหม่ ตั้งแต่ยุคที่มาเล่นมวย วันนั้นเขาเกือบจะที่จะโดนลงประชาทัณฑ์เนื่องจากว่าขาดเงินจ่าย
แม้กระนั้นก็ได้ช่วยปลุกปั้นเนื่องจากว่าทราบดีว่าฟ้าวันใหม่ หรือ “ต่อ” เป็นมวยมีฝีมือ ก็เลยตกลงใจที่จะช่วยเหลือและก็ปลุกปั้น จนถึงมารู้การเคลื่อนไหวว่าฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์ จัดเตรียมที่จะล้มมวย ได้โทรไปพบคณะทำงานที่จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อขอให้หยุดซะ แม้กระนั้นไม่ทัน ด้วยเหตุว่าทางฟ้าวันใหม่ ได้โดนน็อกไปก่อน
“ในตอนนั้น ผมโดนโซเชียลดุด่าเหลวเลยขอรับ กล่าวหาไปกล่าวร้ายเขา ในที่สุดคาดคั้นข้อเท็จจริง ก็เลยรู้เรื่องรู้ราวจริง เรื่องที่ฟ้าวันใหม่ เผยออกมาว่า ถ้าหากพูดเรื่องจริงจะโดนข่มขวัญ อะไรอย่างงี้ นับว่าเป็นคำกล่าวอ้างของนักมวยแค่นั้น” มวยไทย7สี
ในเวลาที่ฟ้าวันใหม่ เผยออกมาว่า คนที่ติดต่อล้มมวยนั้น มาติดต่อซื้อน้ำพริกที่ทำขายออนไลน์ 2 ครั้ง ถัดมานายจ้างล้มมวยได้มารับของเอง บอกให้ขึ้นมาเอาเงินบนรถยนต์ ก่อนที่จะกล่าวว่าการต่อยกับ หลานย่าโม ว.วัฒนะ สู้ไม่ได้หรอก ประเดี๋ยวว่าจ้าง 5 แสนบาท ให้ล้มมวย ถ้าหากไม่เอาช่างเถิด
แม้กระนั้นห้ามบอกผู้ใด ถ้าหากบอกผู้ใดกันจะมากมายระทืบ ตอนต้นนั้นฟ้าวันใหม่ เห็นด้วยว่ากลัวคำขู่รวมทั้งอยากได้เงินไปทำฟาร์มไก่ ก็เลยรับข้อเสนอ โดยนายจ้างโอนเงินให้ก่อน 3 หมื่นบาท ที่เหลือรับภายหลังจากขึ้นสังเวียน สารภาพว่า ในชีวิตของตน เคยล้มมวยมาแล้ว 3 ครั้ง ในคราวนี้เป็นครั้งที่ 4
“โบ๊ท” ณัฐเดช บอกว่า เท่าที่ทราบมานั้น ผู้ที่เป็นนายจ้าง เป็นเจ้าของค่ายฝึกซ้อมมวยเกียรติพานทอง ซึ่งในแวดวงทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีชื่อในประเด็นการล้มมวยอยู่แล้ว แต่ว่าเวลานี้ ผู้ก่อเรื่องได้หนีไปไม่อาจจะติดต่อได้ ทางเดียวที่จะสิ้นเรื่องนี้ก็คือ ทางนายจ้างควรต้องได้รับโทษด้วยการติดตะรางเพียงแค่นั้น ไม่มีการยินยอมความเด็ดขาด
เวลาเดียวกันฟ้าวันใหม่ ได้นำเอาพานหมวด 5 เพื่อมาขอโทษ “โบ๊ท” ณัฐเดช ก่อนที่จะโปรโมเตอร์จะบอกว่า ยินดีรับพานขันธ์ 5 ไว้ แม้กระนั้นเรื่องของคดี ควรจะเป็นไปตามหลักฐานรวมทั้งกรรมวิธี ไม่มีการยินยอมความ จะติดตะรางก็จะต้องติดตะราง เพื่อเป็นบทเรียน
ฟ้าวันใหม่กล่าวตบท้ายในรายการว่าขอช่องทางต้องการกลับไปดำเนินชีวิต ไม่ขอจำคุก ซึ่ง “โบ๊ท” พูดว่า หัวข้อนี้ตัวเองไร้อำนาจ ขึ้นกับขั้นตอนของศาล ถ้าหากฟ้าวันใหม่ ร่วมมือสำหรับเพื่อการจัดการล่าเพศผู้กระทำผิด ก็บางทีก็อาจจะไม่ต้องติดตะรางก็ได้
ณัฐเดชวชิรรัตนวงศ์กล่าวตบท้ายว่า ตั้งแต่มีพระราชบัญญัติมวยไทย เมื่อปี 2542 ยังไม่เคยจับตัวผู้ทำความผิดจากกรณีล้มมวยได้เลย ส่วนใหญ่ก็มักจบลงที่การยินยอมความหรือหวาดกลัวอำนาจอิทธิพล ต้องการที่จะให้คดีนี้เป็นคดีความแบบอย่าง แล้วก็การันตีว่า ไม่มีการยินยอมความเด็ดขาด พรบ. ฉบับนี้ ข้อบังคับบทกำหนดโทษผู้ที่ทำความผิดว่า จำเป็นต้องถูกปรับเป็นเงิน 1 แสนบาท หรือ ติดตะราง 5 ปี หรือ ทั้งยังจำทั้งยังปรับ