ชีลด์สตำหนิ คลาเรสซ่า ชีลด์สผู้ชนะเลิศเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัย แชมป์ 2 ดิวิชั่นที่ไม่มีปัญหา

ชีลด์สตำหนิ และเป็นแชมป์โลก 12 ตำแหน่ง ทั้งหมดเมื่ออายุ 26 ปี มีไฟต์สำคัญและกำหนดอนาคตรออยู่ทั้งในและนอกสังเวียน

ชาวอเมริกันที่ตราหน้าตัวเองว่า ซึ่งหมายถึงผู้หญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เป็นผู้นำระดับแนวหน้าของความก้าวหน้าในการชกมวยของผู้หญิงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

เฉพาะในปี 2560 เท่านั้นที่เธอกลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่พาดหัวข่าวรายการโทรทัศน์ระดับพรีเมียม https://azdgc.com/

เกือบห้าปีต่อมา มวยหญิงกำลังเฟื่องฟู ต่อสู้บนดินอังกฤษอีกครั้งในวันเสาร์ โดยการต่อสู้ครั้งประวัติศาสตร์กับ มีแนวโน้มมากที่สุดต่อไป นาตาชา โจนาสจะต่อสู้

เพื่อชิงแชมป์โลกในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายสนับสนุนของอาเมียร์ ข่าน ปะทะ เคล บรู๊ค และแน่นอน จะเป็นพาดหัวข่าวที่ ในงานที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงในเดือนเมษายน มันเป็นเพียงเดือนกุมภาพันธ์ มีอีกมากที่จะมา

ยังมีประเด็นที่เกี่ยวข้องที่ยังคงอยู่ ความเท่าเทียมกันของค่าจ้างเป็นหนึ่งเดียว ไม่ว่าผู้หญิงควรจะต่อสู้เป็นเวลา 12 รอบสามนาทีหรือไม่ก็ตามแทนที่จะเป็นรอบ 10 รอบสองนาทีที่ 10 เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บ็อบ อารัม โปรโมเตอร์อันดับสูงสุด วัย 90 ปี ได้รับการตอบโต้อย่างรุนแรงหลังจากยืนยันว่าไฟต์ จะไม่ดึงดูดความสนใจแบบเดียวกับที่ออสการ์ วัลเดซ ปะทะ ชาเคอร์ สตีเวนสัน ที่จะเกิดขึ้นในคืนเดียวกัน ทำไม? ‘การต่อสู้ที่ดีแบบนั้น ฉันหมายความว่า มาเลย’ เขากล่าว ‘ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ผู้คนจึงไม่สนใจการต่อสู้ของผู้หญิงเป็นพิเศษ’

เจค พอล ผู้ซึ่งไม่ว่าคุณจะคิดอย่างไรเกี่ยวกับเขาในตอนนี้ กลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในวงการกีฬา ได้ตราหน้าว่า แอรัม เป็น ‘ไดโนเสาร์’ ซึ่งได้พบกับ ‘ได้ยิน’ จาก และชีลด์สซึ่งตั้งใจแน่วแน่ที่จะทิ้งมรดกที่ยั่งยืนไว้เบื้องหลัง ยืนยันว่าผู้ก่อการกำลังใช้ชีวิตอยู่ในอดีต

“ผมแค่คิดกับบ็อบ อารัม เขายังไม่ทันเวลาของความเป็นจริงในตอนนี้” ชิลด์สกล่าวกับSportsmail ‘นักสู้หญิงได้รับเงินเป็นจำนวนมาก นักสู้หญิงต่อสู้ในทีวี เรามีฐานแฟนคลับที่ยอดเยี่ยม และผู้คนต่างตั้งตารอที่จะได้เห็นเราต่อสู้’

น่าเศร้าที่มันไม่ได้เป็นแบบนี้เสมอไป ในความเป็นจริง เป็นเพียงในปี 1998 ที่คณะกรรมการควบคุมมวยแห่งอังกฤษได้อนุญาตให้ผู้หญิงได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพในที่สุด หลังจากที่ ถูกนำตัวขึ้นศาล มวยหญิงถูกเพิ่มเข้าไปในตารางการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี 2555 เท่านั้น

‘ฉันคิดว่าบ็อบ แอรัม ยังคงมีชีวิตอยู่ในสมัยของคริสตี้ มาร์ติน ซึ่งเขาต้องสร้างนักสู้หญิง ต่อสู้กับนักเต้นระบำเปลื้องผ้า ต้องมีเลือดและสิ่งของที่มีลักษณะเช่นนั้นเป็นจำนวนมาก’ ชีลด์สกล่าวต่อ มวยไทย

‘ในเวลานี้ เรามีนักสู้ตัวจริงที่เป็นนักกีฬาตัวจริงที่ต่อสู้กับคนจริง เรากำลังต่อสู้กับแชมป์เปี้ยน ฉันไม่คิดว่า บ็อบ แอรัม จะเคยชินกับการต่อสู้แบบนั้น แม้ว่าเขาจะเซ็นสัญญากับ เมเยอร์ แล้วก็ตาม

‘ฉันไม่คิดว่าเขาจะเห็นว่าการชกมวยหญิงได้พลิกผันครั้งใหญ่สำหรับสิ่งที่ดีที่สุด และถ้าเขารักษากรอบความคิดนั้นไว้ เขาจะพลาดโอกาสครั้งใหญ่สำหรับหนึ่ง ทำเงินมากมาย และสอง อยู่ทางด้านขวาของประวัติศาสตร์’

ในอดีต แอรัม ได้สนับสนุนแนวคิดของ 12 รอบสามนาทีในการชกมวยหญิง เขายังยืนกรานว่าเขาไม่ได้หมายความถึงความคิดเห็นของเขาแต่อย่างใด แต่จากนักสู้ 78 คนที่มีรายชื่ออยู่ในเว็บไซต์ของ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นผู้หญิง เป็นตายเท่ากัน

แม้ว่าจะมีปัญหาที่ต้องแก้ไข แต่ก็พอใจกับทิศทางของการแข่งขันชกมวยหญิง และรับรองว่าเธอจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างโปรไฟล์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

‘เป็นเรื่องดีที่ได้เห็นการต่อสู้เหล่านี้เกิดขึ้น’ เธอกล่าว “เป็นเรื่องดีที่ได้เห็นพวกเขาต่อสู้กันในทีวี การได้เห็นเคธี่และอแมนด้า ไม่เพียงแต่ต่อสู้กันเองเท่านั้น แต่ยังเป็นการชกของอีกฝ่ายด้วย เมื่อฉันกลายเป็นมืออาชีพ ฉันเป็นผู้หญิงคนแรกที่ขึ้นรายการเคเบิลระดับพรีเมียมในสหรัฐอเมริกาในรายการ

‘ตอนนี้เพื่อดูว่าอีเอสพีเอ็นมี เมเยอร์, มีแชมป์หญิงจำนวนมากและ กำลังเข้าร่วมโดยมีฉัน ฉันคิดว่ามวยหญิงกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง

‘เรากำลังเข้าใกล้การจ่ายเงินที่เท่าเทียมกัน เวลาต่อสู้ที่เท่ากัน โอกาสที่เท่าเทียมกัน’ ฉันตื่นเต้นที่จะได้เห็นอนาคตข้างหน้า ฉันเซ็นสัญญาหนึ่งล้านดอลลาร์ ตอนนี้ กำลังสร้างเจ็ดร่าง ฉันเชื่อว่าเคธี่สร้างเจ็ดร่าง

‘ฉันแค่ต้องการให้ผู้หญิงจำนวนมากขึ้นได้รับเงินเดือนเจ็ดหรือแปดหลัก จากนั้นฉันก็ยินดีที่จะบอกว่าฉันเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้และเป็นคนที่ต่อสู้เพื่อค่าจ้างและโอกาสที่เท่าเทียมกัน’

ความก้าวหน้าของการชกมวยหญิงเป็นหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่ชีลส์ทำในสังเวียน ใช่ เธอกำลังต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่ง ใช่ เธอกำลังเข้าสู่วงการใหม่ด้วยความผันผวนระหว่างการชกมวยกับ โดยตอนนี้ได้ชกสองครั้งในรอบแปดเหลี่ยม และใช่ ยังมีอีกมากที่จะตามมา

แต่เมื่อพูดและทำเสร็จแล้ว มรดกที่เธอต้องการทิ้งไว้เบื้องหลังก็ชัดเจน

“ในสังเวียนนั้น ฉันอยากถูกจดจำว่าเป็นคนที่ไม่เคยปฏิเสธการท้าทาย ไม่เคยปฏิเสธการบังคับ ต่อสู้อย่างดีที่สุดเสมอ และทำลายสถิติ” เธอกล่าว

‘นอกสังเวียน ฉันต้องการเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ยิ่งใหญ่ที่ช่วยผู้คน ให้คำแนะนำที่ดีเยี่ยม และช่วยสร้างพิมพ์เขียวสำหรับผู้หญิงที่กำลังจะมา’

‘ในอนาคต เมื่อผู้หญิงได้รับเงินหลายล้านดอลลาร์ในการชกมวย พวกเขาจะพูดได้ว่า คลาเรสซ่า ชีลด์ส คือผู้ที่เริ่มต้นสิ่งนั้น นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการเป็นที่จดจำ’

ยืนกรานแผนการที่จะต่อสู้กับ มาร์แชลต่อไปหลังจากพยายามเข้ารับตำแหน่ง  เป็นเวลาหลายปี

“ฉันโทรหาซาวันนาห์ มาร์แชลในปี 2018 และไม่ใช่แค่โทรออกทาง ทวิตเตอร์” เธอกล่าว “เราส่งสัญญาให้มาร์แชลและทีมของเธอ มันเป็นอีเมล และอีเมลก็ถูกส่งกลับโดยไม่ได้ลงชื่อ พร้อมข้อความจากทีมของเธอบอกว่าเธอไม่พร้อมที่จะต่อสู้ ไม่มีใครเคยวิ่งหนีจากสะวันนา มาร์แชล

‘นี่คือการต่อสู้ที่ฉันต้องการมาโดยตลอดใช่หรือไม่? แน่นอน ใครล่ะที่ไม่ต้องการแก้แค้นความสูญเสียเพียงอย่างเดียวของพวกเขา? เธอทำเหมือนว่ามันเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่านั้นไม่ใช่เลย

“ฉันไม่ต้องต่อสู้กับมาร์แชลเพื่อพิสูจน์ว่าฉันเก่งที่สุด ความสำเร็จของฉันพิสูจน์ได้ว่า ฉันเป็นผู้หญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลเพราะฉันมีความสำเร็จที่ผู้หญิงคนอื่นไม่มี

‘การต้องการต่อสู้กับซาวันนาห์ มาร์แชล ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการเป็นแชมป์โลกของเธอ ข้อบกพร่องเพียงอย่างเดียวของฉัน – ในมือสมัครเล่น – 50, 60 การต่อสู้ที่ผ่านมากับเธอ และฉันอยากจะต่อสู้กับเธออีกครั้งเพื่อแสดงให้เธอเห็นว่าโดยพื้นฐานแล้วเธอโชคดี

หลังจากคว้าเข็มขัดแชมป์โลกถึง 12 อันจากเข็มขัดของ  ยืนยันว่าเธอรู้สึกไม่ได้รับความเคารพจากคู่หูชาวอังกฤษของเธอ ไม่แพ้ใครในการชก 11 ครั้ง ได้ระบุเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าชาวอเมริกันได้เซ็นสัญญากับ เพียงเพราะขาดทางเลือก ในขณะที่ยังตั้งคำถามถึงพลังหมัดของคู่ต่อสู้ในอนาคตของเธอด้วย

ชีลด์ส ซึ่งยืนยันว่าเธอมีตัวเลือกมากมายบนโต๊ะ เชื่อว่ามาร์แชลไม่มีประวัติย่อสำรองคำพูดของเธอ

‘เธอได้ต่อสู้กับใครที่เป็นคู่ต่อสู้ที่คู่ควร? ฉันจะบอกคุณอย่างหนึ่ง: ฮันนาห์ แรนกิน เท่านั้น แต่จากการต่อสู้อื่นๆ ของเธอ ใครกัน? เธอต่อสู้กับใครที่มีแคมป์เต็มรูปแบบในเมื่อไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าหนึ่งสัปดาห์หรือสามวัน?

‘คู่ต่อสู้ของเธอส่วนใหญ่เป็นสาวตัวเล็กที่มีน้ำหนักไม่เกิน 160 ปอนด์ เช่นเดียวกับการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเธอ หญิงสาว เป็นนักหวด 147 หวด ซึ่งจริงๆ แล้วออกไปที่นั่นและโห่ร้องตูดของเธอในรอบแรก ถูกแก๊สออกแล้วจึงหยุด .’

เธอกล่าวต่อ: ‘เมื่อได้ยินเธอพูดว่าฉันมีหมัดหมอน… ฉันรับรองได้เลยว่า เมื่อฉันกับสะวันนา มาร์แชลต่อสู้กัน เธอจะไม่ยืนตรงกลางเวทีและต่อสู้กับฉัน’