อเล็นสุดกระหาย หลังจากร้องเพลงคอยมาแสนนาน สุดท้ายนักสู้ขวัญใจแฟนคลับทั้งโลก “The Panther” อเล็น เอ็นกาลานี

อเล็นสุดกระหาย ก็พร้อมคืนสู่สังเวียนเพื่อรับน้องใหม่ร่างยักษ์ “Reug Reug” อูมาร์ ในข้อตกลงการต่อสู้แบบประสมประสาน (MMA) โดยเป็นคู่เปิดรายการสุดเดือดของศึก ซึ่งอัดเทปการแข่งขันจาก สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม แล้วก็จะถ่ายทอดในวันศุกร์ที่ 29 มกราคม

อเล็นสุดกระหาย

ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับ ที่จะพบกับคู่แข่งร่างยักษ์ และก็ศึกนี้จะเป็นอีกทีที่เขาจำต้องพบกับความท้ากับคู่ปรับที่ตัวใหญ่ กล้าแกร่ง และก็ชายหนุ่มสดกว่าเขาถึง 17 ปี มวยไทย7สี

ซึ่งเป็นเจ้าของแล้วก็ประธานยิม จากฮ่องกง เป็นนักกีฬาที่อยู่ภายใต้สังกัด วัน แชมเปียนชิพ มาอย่างช้านานตั้งแต่ปี 2557 โดยไฟต์ปัจจุบันเขาแสดงตัวบนสังเวียนเมื่อมีนาคม 2562 และก็ถูกวางโปรแกรมให้พบกับเจ้าตำนานนักสู้อย่าง “The Phenom” วิตอร์ เบลฟอร์ต ก่อนจะพบพิษโควิด-19 ทำให้ไฟต์นี้กลายเป็นหมันไป

“ปีที่แล้วผมฝึกเพื่อรับมือกับ วิตอร์ ไม่ใช่กับคนอื่นแต่ว่ากับเขาผู้เดียว ซึ่งมันเป็นการรอที่แสนยาวนานจนถึงเกินทน แต่ว่าผมก็รู้เรื่องสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกคนต้องปลอดภัยไว้ก่อน”

“การได้เจอกับคู่แข่งรายใหม่ ทำให้ผมต้องปรับตัวในการฝึกใหม่อย่างสิ้นเชิง เพราะว่าผมไม่ได้เทรน MMA เพื่อเจอกับ วิตอร์ แต่ว่าเมื่อจะต้องพบกับ ซึ่งผมมีเวลาเตรียมตัวไม่กี่สัปดาห์ ผมต้องปัดฝุ่นวิชามวยปล้ำของผมใหม่อย่างรวดเร็ว”

“Reug Reug” เป็นเยี่ยมในนักกีฬารุ่นเฮฟวีเวตที่มีมวลร่างกายใหญ่ยักษ์ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในเวทีระดับโลก และมีนิสัยถูกใจพุ่งเข้าใส่ตามสไตล์นักมวยปล้ำที่เขาถนัด

“ผมคิดว่าโดยรวมแล้วผมมีอะไรที่เหนือกว่าเขา ผมแข็งแกร่งมากมาย ยืดหยุ่นมาก แล้วก็เร็วมากด้วย คุณจะใหญ่อย่างเดียวไม่ได้ คุณจะต้องสร้างความเป็นต่อในเรื่องความยืดหยุ่นแล้วก็ความเร็ว นี่เป็นกีฬา MMA ไม่ใช่มวยปล้ำ ดังนั้นคุณจะต้องปรับตัว”

อเล็นสุดกระหาย

“ผมรู้ดีว่าเขาเป็นแชมป์มวยปล้ำแบบเริ่มแรก ผมเองก็ถูกใจสไตล์มวยปล้ำอย่างนี้ ซึ่งเป็นที่นิยมมากในแอฟริกาโดยเฉพาะในเซเนกัล (รกรากของ อูมาร์) และก็โน่นเป็นเหตุผลที่ผมรู้สึกตื่นเต้นขึ้นไปอีกที่จะได้วัดความสามารถกับต้นตำรับ”

แชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งแล้วก็มวยไทย 4 ยุค พยากรณ์ว่าศึกนี้อาจจบแบบไม่ครบยก รวมทั้งแน่ๆว่านักสู้ทุกคนตั้งมั่นมาเพื่อปิดเกมให้เด็ดขาดเร็ว รวมทั้งนี่ก็เป็นสิ่งที่ ตั้งใจไว้รับน้องใหม่อย่าง เหมือนกัน

อเล็นสุดกระหาย วัย 28 ปี กำลังมาเปิดตัว บนเวทีระดับโลก แชมเปียนชิพในฐานะตัวแทนชาติเซเนกัล ประเทศเล็กๆ ซึ่งอยู่ทางแอฟริกาตะวันตก ดังนั้นก็เลยไม่ใช่แค่คนในประเทศ ที่พร้อมจะส่งเสียงเชียร์ให้เขา แต่ว่าคือคนทั้งทวีปแอฟริกาหนุนหลังเขาอยู่ มงคลแก้วเก๋า

การก้าวเท้าเข้ามาอยู่ใน แชมเปียนชิพ จะต้องพบกับความท้าในรูปแบบต่างๆท่ามกลางนักสู้รุ่นยักษ์ที่เก่งกาจระดับโลก โดยเฉพาะคู่แข่งขันซึ่งอยู่ตรงหน้า ดีกรีแชมป์โลกมวยไทยและก็คิกบ็อกซิ่ง 4 ยุคคนประเทศฮ่องกง-แคเมอรูน “อ็นกาลานี” วัย 45 ปี ที่จัดเจนอยู่กับ วัน แชมเปียนชิพ มาตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งมารับหน้าที่เปิดฉากสมาชิกใหม่อย่างเขาในข้อตกลงการต่อสู้แบบประสมประสาน รุ่นเฮฟวีเวต

“จากด้านล่างขึ้นบน ไม่ว่าคุณจะส่งใครกันแน่มา ผมก็พร้อมสู้ ผมเกิดขึ้นมาเพื่อสู้ ผมฝึกฝนศิลป์การต่อสู้มาตลอด เพราะฉะนั้นสำหรับผมแล้ว ผมไม่เลือกคู่แข่งขัน ผู้ใดก็ได้ทั้งหมด”

“ผมเก่งมวยปล้ำ แต่ว่าก็ฝึกฝนคนยิวยิตสูมาด้วย เพราะเหตุว่ามันเป็นกีฬาคล้ายกัน ผมทราบดีว่า เป็นแชมป์ที่เก่งมากมาย แต่ว่าท้ายที่สุดมันก็ขึ้นกับว่าเขาจะทำอะไรได้หรือเปล่าได้บนสังเวียน ส่วนผมจะทำสิ่งที่ผมจำต้องทำ”

สำหรับ ศึกนี้เป็นมากกว่าเพียงแค่การประลอง เขามุ่งมั่นที่จะเปิดตัวอย่างงดงาม และก็นำพาตนเองก้าวไปสู่จุดสุดยอดของรุ่นเฮฟวีเวตเพื่อประจันหน้าเจ้าบัลลังก์ “กางรนดอน เวรา” เขาปรารถนาพิสูจน์ว่ายักษ์ใหญ่จากประเทศเล็กๆจะทำในสิ่งที่คนแอฟริกันไม่เคยได้มองเห็นมาก่อน

นี่เป็นศึกสำคัญของ ในฐานะผู้แทนชาติเซเนกัล ประเทศเล็กๆซึ่งอยู่ทางแอฟริกาตะวันตก ด้วยเหตุนี้ก็เลยไม่ใช่แค่คนภายในประเทศที่พร้อมจะส่งเสียงให้กำลังใจให้เขา แต่ว่าหมายคือคนทั้งยังทวีปแอฟริกาสนับสนุนเขาอยู่

การก้าวเท้าเข้ามาอยู่ใน แชมเปียนชิพ จำเป็นจะต้องพบกับความท้าในแบบต่างๆท่ามกลาง นักสู้รุ่นยักษ์ ที่กล้าระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแชมป์โลกของรุ่นนี้อย่าง “The Truth” แบรนดอน เวรา ที่วันหนึ่ง มั่นใจว่าอาจจะมี ช่องทางได้เจอะกัน

หากแม้ดูเหมือนจะ เป็นการวาดฝัน อย่างมักใหญ่ ใฝ่สูงในอนาคต แต่ว่าเขาก็ไม่ละเลย บททดลองซึ่งกำลัง รออยู่ตรงหน้า กับแชมป์โลกมวยไทยรวมทั้งคิกบ็อกซิ่ง 4 ยุคชาวฮ่องกง-แคเมอรูน “อเล็น เอ็นกาลานี”

“จากด้านล่างขึ้นบน ไม่ว่าคุณ จะส่งคนใดมา ผมก็พร้อมสู้ ผมเกิดขึ้นมาเพื่อสู้ ผมฝึกฝนศิลป์การต่อสู้ มาตลอด ด้วยเหตุนี้ สำหรับผมแล้ว ผมไม่เลือก คู่แข่งขัน ใครก็ได้ทั้งหมด”

“ผมเก่งมวยปล้ำ แม้กระนั้นก็ฝึกหัดยิวยิตสูมาด้วย เนื่องจากว่ามันเป็นกีฬาคล้ายกัน ผมทราบว่า เป็นแชมป์ที่ เก่งมากมาย แต่ว่าท้ายที่สุดมันก็ขึ้นกับว่าเขาจะทำอะไรได้หรือเปล่า ได้บนสังเวียน ส่วนผม จะทำสิ่งที่ผมจำเป็นต้องทำ”

ในวัย 28 ปีกำลังพบเจอ กับสายน้ำที่ กำลังเชี่ยวกราก เมื่อจำต้องพบนักสู้มากมายประสบการณ์วัย 45 ปีอย่าง อเล็น ซึ่งอัดอั้นตันใจมาเป็นนานเป็นปีๆที่กำลังจะได้หวนกลับสังเวียน แต่ว่านักมวยปลุกปล้ำชาวเซเนกัลก็พร้อมจะพิสูจน์ว่ายักษ์ใหญ่จากประเทศเล็กๆอย่างเขาจะก่อให้คนทั่วโลกจำเขาได้โดยทันทีตั้งแต่ไฟต์แรก บนเวทีระดับนานาชาติ

“ผมเป็นอนาคตของแวดวง MMA ในแอฟริการวมทั้ง เซเนกัล ผมต้องการเป็นแชมป์โลก ONE ผมอยากได้ เข็มขัดนั้นมาคาด และก็ผมจะทำในสิ่งที่ชาวแอฟริกันไม่เคยได้เห็นมาก่อน”